เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่มีค

เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่มีความสง่างาม อลังการและอ่อนช้อย การแสดงประเภทหนึ่งที่ใช้ท่ารำตามแบบละครใน แตกต่างเพียงท่ารำที่มีการเพิ่มตัวแสดงเปลี่ยนทำนองเพลงที่ใช้ในการดำเนินเรื่องไม่ให้เหมือนกับละครแสดงเป็นเรื่องราวโดยลำดับก่อนหลังเหมือนละครทุกประการ ซึ่งไม่เรียกการแสดงเหล่านี้ว่าละครแต่เรียกว่าโขนแทน[1] มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา[2] จากหลักฐานจดหมายเหตุลาลูแบร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้มีการกล่าวถึงการแสดงโขนว่า เป็นการเต้นออกท่าทาง ประกอบกับเสียงซอและเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ ผู้แสดงจะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าตนเองและถืออาวุธ
โขนเป็นจุดศูนย์รวมของศาสตร์และศิลป์หลากหลายแขนงเช่นวรรณกรรม วรรณศิลป์ นาฏศิลป์ คีตศิลป์ หัตถศิลป์[4] โดยนำเอาวิธีเล่นและการแต่งตัวบางชนิดมาจากการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์[5] มีท่าทางการต่อสู้ที่โลดโผน ท่ารำ ท่าเต้นเช่น ท่าปฐมในการไหว้ครูของกระบี่กระบอง รวมทั้งการนำศิลปะการพากย์ การเจรจา หน้าพาทย์และเพลงดนตรีเข้ามาประกอบการแสดง ในการแสดงโขน ลักษณะสำคัญอยู่ที่ผู้แสดงต้องสวมหัวโขน ซึ่งเป็นเครื่องสวมครอบหุ้มตั้งแต่ศีรษะถึงคอ เจาะรูสองรูบริเวณดวงตาให้สามารถมองเห็น แสดงอารมณ์ผ่านทางการร่ายรำ สร้างตามลักษณะของตัวละครนั้น ๆ เช่น ตัวยักษ์ ตัวลิง ตัวเทวดา ฯลฯ ตกแต่งด้วยสี ลงรักปิดทองประดับกระจก บ้างก็เรียกว่าหน้าโขน
ในสมัยโบราณ ตัวพระและตัวเทวดาต่างสวมหัวโขนในการแสดง ต่อมาภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงไม่ต้องสวมหัวโขน คงใช้ใบหน้าจริงเช่นเดียวกับละคร แต่งกายแบบเดียวกับละครใน เครื่องแต่งกายของตัวพระและตัวยักษ์ในสมัยโบราณมักมีสองสีคือ สีหนึ่งเป็นสีเสื้อ อีกสีหนึ่งเป็นสีแขนโดยสมมุติแทนเกราะ เป็นลายหนุนประเภทลายพุ่ม หรือลายกระจังตาอ้อย ส่วนเครื่องแต่งกายตัวลิงจะเป็นลายวงทักษิณาวรรต โดยสมมุติเป็นขนของลิงหรือหมี ดำเนินเรื่องด้วยการกล่าวคำนำเล่าเรื่องเป็นทำนองเรียกว่าพากย์อย่างหนึ่ง กับเจรจาเป็นทำนองอย่างหนึ่ง ใช้กาพย์ยานีและกาพย์ฉบัง[8] โดยมีผู้ให้เสียงแทนเรียกว่าผู้พากย์และเจรจา มีต้นเสียงและลูกคู่ร้องบทให้ ใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้าประกอบการแสดง นิยมแสดงเรื่องรามเกียรติ์และอุณรุท ปัจจุบันสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์มีหน้าที่หลักในการสืบทอดการฝึกหัดโขน และกรมศิลปากร มีหน้าที่ในการจัดการแสดง

Results (English) 1:

The high art of Thai with elegance, beautiful and delicate. To display one category that seems to flourish as different characters, just the dancing posture added to the viewer change the melody used in the story is not like the drama is a story by priority as drama in all respects. That does not call any of these show that theatre, but called the mask represents [1] Has a long history since the Ayutthaya period [2] From the evidence of the letter note Lalu bear France Ambassador King Narai It is said to display KHON dance posture, whether it is with the fiddle sound design and musical instruments, different types of actors are masked off the bangbai page itself and holding weapons.โขนเป็นจุดศูนย์รวมของศาสตร์และศิลป์หลากหลายแขนงเช่นวรรณกรรม วรรณศิลป์ นาฏศิลป์ คีตศิลป์ หัตถศิลป์[4] โดยนำเอาวิธีเล่นและการแต่งตัวบางชนิดมาจากการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์[5] มีท่าทางการต่อสู้ที่โลดโผน ท่ารำ ท่าเต้นเช่น ท่าปฐมในการไหว้ครูของกระบี่กระบอง รวมทั้งการนำศิลปะการพากย์ การเจรจา หน้าพาทย์และเพลงดนตรีเข้ามาประกอบการแสดง ในการแสดงโขน ลักษณะสำคัญอยู่ที่ผู้แสดงต้องสวมหัวโขน ซึ่งเป็นเครื่องสวมครอบหุ้มตั้งแต่ศีรษะถึงคอ เจาะรูสองรูบริเวณดวงตาให้สามารถมองเห็น แสดงอารมณ์ผ่านทางการร่ายรำ สร้างตามลักษณะของตัวละครนั้น ๆ เช่น ตัวยักษ์ ตัวลิง ตัวเทวดา ฯลฯ ตกแต่งด้วยสี ลงรักปิดทองประดับกระจก บ้างก็เรียกว่าหน้าโขนในสมัยโบราณ ตัวพระและตัวเทวดาต่างสวมหัวโขนในการแสดง ต่อมาภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงไม่ต้องสวมหัวโขน คงใช้ใบหน้าจริงเช่นเดียวกับละคร แต่งกายแบบเดียวกับละครใน เครื่องแต่งกายของตัวพระและตัวยักษ์ในสมัยโบราณมักมีสองสีคือ สีหนึ่งเป็นสีเสื้อ อีกสีหนึ่งเป็นสีแขนโดยสมมุติแทนเกราะ เป็นลายหนุนประเภทลายพุ่ม หรือลายกระจังตาอ้อย ส่วนเครื่องแต่งกายตัวลิงจะเป็นลายวงทักษิณาวรรต โดยสมมุติเป็นขนของลิงหรือหมี ดำเนินเรื่องด้วยการกล่าวคำนำเล่าเรื่องเป็นทำนองเรียกว่าพากย์อย่างหนึ่ง กับเจรจาเป็นทำนองอย่างหนึ่ง ใช้กาพย์ยานีและกาพย์ฉบัง[8] โดยมีผู้ให้เสียงแทนเรียกว่าผู้พากย์และเจรจา มีต้นเสียงและลูกคู่ร้องบทให้ ใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้าประกอบการแสดง นิยมแสดงเรื่องรามเกียรติ์และอุณรุท ปัจจุบันสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์มีหน้าที่หลักในการสืบทอดการฝึกหัดโขน และกรมศิลปากร มีหน้าที่ในการจัดการแสดง

Results (English) 2:

A performing arts high of Thailand with elegance. Elegance and delicacy The one used by dance theater. The only difference postures are added indication melody used in the story is not as dramatic as the story plays like a first-come true. Which did not call these shows that dramatic, but the pantomime instead [1] has a long history since the Ayutthaya [2] from Las Loubere archival evidence. Ambassador of France in the reign of King Narai. It is said that the pantomime. Dance gesture The Twang and musical instruments of different types of players to wear a mask to cover face themselves and their armed
masked as a center of science and art for various disciplines, such as literature, literary, dance, musical arts, craftsmanship, [4] by bringing out how to play and dress up some. primitive snake species from playing seizures [5] has a fighting stance sensational dance choreography as I care to Victory Lane in sword. Including the art of ventriloquism negotiations Hngapatis and music into the show in a pantomime key aspect is that the show must Swmhawokn. This is a family-clad from head to neck. Drill two holes for the eyes can see. Expression through dance Created by the nature of the character, such as a giant monkey, etc., decorated with angels and gilded glass. Some pages pantomime called
in ancient times. And the angel of the Lord Swmhawokn in the show. Later changed without Swmhawokn. I really like the character faces. Costume drama in the same way. Costumes of the ancient gods and the giants are usually two colors. Paint a coat of paint Another color instead of a hypothetical arm armor. This is the underpinning of Phum Or striped grille Taagai The costume is a monkey pattern Thaksinawat band. Assuming a monkey or bear fur. Proceed with such an introduction to storytelling is something called a ventriloquist. One way is to negotiate Yani use Epic and Epic Chabang [8], with the voice-overs and instead called for dialogue. A cantor and choruses sung chapter. Use the gamelan five machine operators show. Ramayana popular shows and industry at Meerut. Art Institute of Development is responsible for succession training pantomime. The Fine Arts Department Is responsible for handling

Results (English) 3:

A performing arts high growth with elegance, elegance and delicate Type display using one dance according to characters.Which does not call these performances that drama but instead 1 called masked []. Has a long history since the Ayutthaya period [2]. From the evidence จดหมายเหตุลา ลูแบร์. Ambassador of France in the reign of King Narai the great.A dancing pose. Together with sound SEO instrument and various types of performers will wear a mask to hide their faces and hold weapons
.Dance is the center of science and art in various fields such as literature, literature, dance, music, art crafts art [4] the some way and dress of some kind from playing coryza 5 primitive []. Posture riveting battle dance.Primary position in respect to teacher of Krabi krabong As well as the art of dubbing, negotiation wrap (around the head) and music music to perform in the show masked important characteristic is the need to thresh.Drill two holes the eyes can see. Expressed emotion through dance Built according to the characteristics of the character such as a giant monkey, angel, etc. decorated with color down love gilding glass ornament, some called masked face
.In ancient times, and the angels are the thresh on show. And it came to pass after changing to thresh. Must face actually like drama dress the same character.Color is the color of the shirt in another color is the color arm by assuming instead of armor is a support type phum or ลายกระจัง Thai. The monkey costume is striped circle clockwise. By assuming a monkey fur or bear.To negotiate like one. Use and 8 กาพย์ยานี KAP Chabang []. By the sound instead called the dub and negotiations. A precentor chorus singing and script. Use วงปี่พาทย์เครื่องห้า display. A popular show on the Ramayana and อุณรุท.The Department is responsible for the management and performance.