เหี้ยมีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และเอเช

เหี้ยมีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในบังคลาเทศจะพบกาารกระจายตัวของเหี้ยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลนของ Sandarbans ซึ่งผู้วิจัยได้เลือกทำวิจัยใน ecotourism spot ของ Karamjal เพื่อทำการศึกษานิเวศวิยาของเหี้ย

Results (English) 1:

Damn, is native to South Asia and Southeast Asia. In Bangladesh, which are linear dispersion damn mainly in coastal areas and wetlands of Sandarbans The researchers chose to study ecotourism spot in the house makes Karamjal to study medicine damn.

Results (English) 2:

The is native to South Asia and South East Asia, in which Bangladesh will find most of the dispersion in the coastal and mangrove areas of the Sandarbans, which researchers have chosen to research in the ecotourism spot of Karamjal to do an ecologically study of.

Results (English) 3:

โคตะแพนน่า
ของหวานรสหวานนี้มาจาก Piemont แต่มันเป็นเรื่องปกติทั่วอิตาลี นี้ง่าย panna costa สูตรดัดแปลงจาก Paola พ่อครัวของ La Alazzet delves kovo เป็นโรงแรมที่น่ารักในประเทศในอัมเบรีย
ส่วนผสมที่สามารถเพิ่มสูตร
ครีมนมสดหนักถ้วยหนึ่ง
นมถ้วย
กองไรโบโซม 1 ออนซ์หรือ 28 กรัม
สารสกัดจากวานิลลา
สองชิ้นของเจลาตินซึ่งเป็น 1-7 ออนซ์
จัดเตรียม
นุ่มเจลาตินในชามน้ำเย็นสำหรับนาที ความร้อนครีมและนมและน้ำตาลในหม้อที่ไม่มีปฏิกิริยาและกวนเป็นครั้งคราวเพื่อให้มันไม่ไหม้หรือติดกาวเข้าด้วยกัน ทันทีที่มันเริ่มเดือดเอามันออกมาจากไฟ
บีบนุ่มแผ่นเจลาตินเพื่อเอาน้ำส่วนเกินและผัดจนส่วนผสมครีมร้อนละลาย
เติมน้ำเย็นในชามขนาดใหญ่หรือหม้อขนาดใหญ่และใส่ส่วนผสมของครีมและเจลาตินลงในภาชนะใส่น้ำเย็น คนมักจะใช้ไม้พายยางจนเย็น เมื่อครีมเริ่มข้นโอนส่วนผสมลงในเหยือกและเทลงในแม่พิมพ์ที่แยกต่างหาก ครอบคลุมฟิล์มห่อแช่เย็นประมาณสามชั่วโมงจนกว่าจะปลอดภัย Panna Cotta สามารถทำมันได้ในวันก่อนเสิร์ฟ
ให้บริการผ่อนคลายรอบขอบด้านในของจิ้งหรีดด้วยมีดคม กลับหัวถาดของหวานบนแม่พิมพ์และกลับหยาบหวังว่า panna cotta จะออกมาด้วยกันถ้าไม่ปลอมตัวด้วยซอส
ในระหว่างการเดินและการปรุงอาหารทัวร์ของเราคุณสามารถทำ Panna Cotta และอาหารอื่นๆที่ Palazzzta del Vescovo Palace
ซอสขนมหวาน
แพนน่าค็อตต้าแยมผลไม้เปรี้ยวและเผ็ดที่ทำจากเบอร์รี่หรืออัลมอนด์เปรี้ยวให้ความคมชัดที่ยอดเยี่ยมกับครีมแพนน่าค็อตต้า ปรุงอาหาร 1.5 ถ้วยมิลลิลิตรในหม้อขนาดเล็กที่ไม่ทำปฏิกิริยาจนนุ่ม วัดเชอร์รี่สุกและเพิ่มน้ำตาลเท่ากัน ลองทาร์ตไข่และเพิ่มน้ำตาล ปรุงสุกและคนบ่อยๆเพื่อให้มันไม่ไหม้ภายใน 10 นาทีจนกว่ามันจะข้นเล็กน้อยถ้าคุณปรุงอาหารนานเกินไปมันจะกลายเป็นซอสเชอร์รี่เปรี้ยว เย็นก่อนที่จะตัก panna kota ด้วยช้อน
Panakota ช็อกโกแลตซอสสำหรับผู้ที่ไม่สามารถให้ขึ้นของหวานโดยไม่มีช็อกโกแลตซอสช็อกโกแลตดำยังเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ Panakota เก็บประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะของครีมหนักและความร้อนในกระทะขนาดเล็ก เพิ่มชิ้นใหญ่ของช็อกโกแลตหวานครึ่งและคนให้เข้ากันจนละลายเจือจางด้วยนมเล็กน้อยจนข้นเท่าที่คุณต้องการ หล่อเย็นลงบนพื้นผิวที่ยังไม่ได้สร้าง panna ค็อตต้า ด้านบนเป็นชิ้นอัลมอนด์ย่าง
ถ้าคุณไม่เคยทำคาราเมลมาก่อนมันเป็นเรื่องง่ายแต่คุณต้องใช้ขั้นตอนความปลอดภัยที่จะไม่สาดหยดคาราเมลร้อน ใส่ถุงมือเตาอบและใส่ชามน้ำเย็นใกล้ๆเผื่อไว้
ในกระทะขนาดเล็กความร้อนน้ำในถ้วย 1.5 มิลลิลิตรและให้ความอบอุ่น เติมอ่างด้วยน้ำเย็น ตอนนี้เริ่มต้มคาราเมลใส่ถ้วยที่สองของน้ำตาลในกระทะสแตนเลสลึกและปรุงอาหารด้วยไฟเล็กๆน้อยๆโดยไม่ต้องกวน เมื่อน้ำตาลเริ่มละลายที่ขอบใช้ช้อนไม้ลากขอบไปยังศูนย์ คนเบาๆเมื่อน้ำตาลละลาย เมื่อน้ำตาลละลายลงในคาราเมลระวังจะไม่ไหม้ มันควรจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพันเข้มสีบรอนซ์เก่า เมื่อถึงสีที่ถูกต้องใส่หม้อในน้ำเย็นเพื่อหยุดการปรุงอาหาร เพิ่มน้ำร้อนและช้อนชาของวานิลลาอย่างระมัดระวังและผสมอย่างรุนแรง ถ้าซอสคาราเมลเป็นชิ้นใส่กลับเข้าไปในไฟต่ำเพื่อให้เรียบ เย็นที่อุณหภูมิห้องก่อนรับประทาน คุณสามารถเก็บคาราเมลส่วนเกินในขวดสำหรับของหวานในอนาคต