Results (
Malay) 1:
[Copy]Copied!
السلام عليكم ورحمة الله وبركاتهبسم الله الرحمن الرحيمHijab ", berdasarkan Al-Quran "Hijab" dan penutup badan wanita dianggap salah satu daripada peruntukan utama Islam. Untuk menyembunyikan badan atau pakaian, ia menghapuskan. Sejarah dan sejarah yang panjang, ditambah dengan nilai dan Islam, dalam kehidupan manusia. Di samping itu, Pejabat Para Rasul fikir yang menegaskan bahawa manusia perlu hidup. Dalam keadaan masyarakat manusia yang bogel itu pentingnya memakai pakaian., Dan menyembunyikan badan dalam mana-mana Di dalam Al-Quran terdapat lebih daripada sepuluh ayat-ayat yang menyebut subjek hijab, dan larangan ke atas. Melihat kepada orang-orang yang boleh berkahwin (khoi n tujuan Naib Kapten) di salah satu daripada ayat-ayat ini adalah ayat-ayat Al-AHZAB ro 59 yang Allah berfirman:بسم الله الرحمن الرحيميَا أَيُّهَا النَّبِيُّ قُل لِّأَزْوَاجِكَ وَبَنَاتِكَ وَنِسَاء الْمُؤْمِنِينَ يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ LIMPAH جَلَابِيبِهِنَّ ذَلِكَ أَدْنَى أَن يُعْرَفْنَ فَلَا يُؤْذَيْنَ وَكَانَ اللَّهُ غَفُورًا رَّحِيمًاصدق الله العظيمBahawa "Oy Oh Nabi! Katakanlah kepada isteri dan anak perempuan pemilik. Dan kepada wanita-wanita ini butt iman Membiarkan mereka tarik mereka kot, Puan puan puan datang turun off ini. นั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะเป็นที่รู้จัก เพื่อที่พวกนางจะไม่ถูกรังแก และอัลลอฮ์ทรงให้อภัยยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง” ซึ่งคำว่า “ญิลบาบ” (جِلْبَاب) หมายถึง “ผ้าคลุมกาย” กล่าวคือ สตรีจำเป็นจะต้องปกปิดเรือนร่างทุกส่วนของนาง ซึ่งนางเป็นเสมือนดั่งดอกไม้งามที่บอบบาง จะได้ถูกปกปักษ์รักษาและปลอดภัยจากเงื้อมมือของพวกที่ลุ่มหลงในกิเลสและตัณหาราคะ ในซูเราะฮ์อันนูร โองการที่ 31 ก็ได้อธิบายถึงเรื่องของ “ฮิญาบ” และการห้ามมองไปยังผู้ที่สามารถแต่งงานกันได้ (ฆ็อยรุ มะห์ร็อม) ไว้เช่นกันความหมายและมิติต่างๆ ของ “ฮิญาบ” ในคัมภีร์อัลกุรอาน คำว่า “ฮิญาบ” ในทางภาษาหมายถึง สิ่งกีดขวาง ม่านปิดกั้นและสิ่งปกปิด การใช้คำๆ นี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในความหมายว่า “ม่านปิดกั้น” มากกว่าความหมายอื่น และคำนี้ที่ให้ความหมายว่า “สิ่งปกปิด” ก็เนื่องจากว่า ม่านปิดกั้น คือสื่อในการปกปิดอย่างหนึ่ง “ฮิญาบ” หมายถึง การแต่งกายแบบอิสลามของสตรี ซึ่งมีสองมิติ ทั้งด้านบวกและด้านลบ มิติด้านบวกของมันคือความจำเป็น (วาญิบ) ในการปกปิดร่างกาย และมิติด้านลบของมันคือ ความเป็นที่ต้องห้าม (ฮุรมะฮ์) ในการเปิดเผยเรือนร่างต่อผู้ที่สามารถแต่งงานกันได้ (ฆ็อยรุ มะห์ร็อม) ทั้งสองมิตินี้จะต้องมีอยู่เคียงคู่กัน จึงจะทำให้การคลุมฮิญาบแบบอิสลามมีผลบังคับใช้ บางครั้งอาจเป็นไปได้ว่ามีมิติแรกแต่ไม่มีมิติที่สอง (ตัวอย่างเช่น ระหว่างสามีภรรยา และเครือญาติใกล้ชิดที่ต้องห้ามในการแต่งงานกัน) ในกรณีเช่นนี้สามารถกล่าวได้ว่า ฮิญาบแบบอิสลามจะไม่มีผลบังคับใช้ หรือไม่เป็นวาญิบ (หน้าที่บังคับ) สำหรับบุคคลที่ต้องห้ามในการแต่งงาน หากตามความหมายโดยทั่วไป (ความหมายในขอบเขตที่กว้างออกไป) เราจะเรียกทุกประเภทของการปกปิดและการปิดกั้นจากการเข้าสู่ความชั่วว่า “ฮิญาบ” เช่นกัน ฮิญาบในความหมายนี้จะแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ที่หลากหลาย ประเภทหนึ่งของมันก็คือ ฮิญาบ (สิ่งปิดกั้น) อารมณ์ความรู้สึก ความคิดและจิตใจ ตัวอย่างเช่น ความเชื่อมั่นที่มีต่อคำแนะนำสั่งสอนต่างๆ ของอิสลาม เช่น ความเชื่อในเรื่องเอกานุภาพของอัลลอฮฺตะอาลา (เตาฮีด) และความเชื่อในเรื่องของศาสดา (นุบูวะฮ์) ส่วนหนึ่งจากตัวอย่างของฮิญาบ (สิ่งปิดกั้น) อารมณ์ความรู้สึก ความคิดและจิตใจที่ถูกต้องนั่นก็คือ การสามารถปิดกั้นและยับยั้งจากความผิดพลาดและบาปต่างๆ ทางจิตวิญญาณและความคิดได้ เช่น การปฏิเสธศรัทธา (กุฟร์) และการตั้งภาคีต่อพระเจ้า (ชิรก์)
นอกจากนี้ในคัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวถึงฮิญาบประเภทต่างๆ ที่จะถูกสำแดงออกมาในพฤติกรรมภายนอกของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น ฮิญาบในการมอง ซึ่งบุรุษและสตรีถูกกำชับ
والله أعلم
แหล่งที่มา: http://sahibzaman.com/hijab-of-quran/
Being translated, please wait..
