อาหารมื้อเช้า มีคำศพท์ในภาษาอังกฤษว่า “Breakfast” แปลแบบตรง ๆ โดยนำคำว translation - อาหารมื้อเช้า มีคำศพท์ในภาษาอังกฤษว่า “Breakfast” แปลแบบตรง ๆ โดยนำคำว English how to say

อาหารมื้อเช้า มีคำศพท์ในภาษาอังกฤษว

อาหารมื้อเช้า มีคำศพท์ในภาษาอังกฤษว่า “Breakfast” แปลแบบตรง ๆ โดยนำคำว่า “Break” ที่แปลว่า “หยุด” กับคำว่า “Fast” ที่แปลว่า “การอดอาหาร” มารวมกัน ดังนั้น Breakfast จึงหมายความว่า “การหยุดการอดอาหาร”

คนเรามักจะรับประทานอาหารเย็นประมาณ 6 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่มโดยประมาณการเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนั้นก็มักจะเป็นการทำกิจกรรมเบา ๆ พักผ่อนสมอง ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนหลับ อาหารมื้อดึกกว่านี้จัดเป็นโทษต่อร่างกายเพราะแทนที่ร่างกายจะได้พักผ่อนและ ซ่อมแซมความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นมาตลอดวันแต่กลับต้องมาเสียเวลาและพลังงาน เพื่อย่อยอาหาร

นับรวมแล้วร่างกายต้องอดอาหารกว่าจะถึงเช้าวันใหม่เป็นเวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง

ร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยเซลล์จำนวนมหาศาล ซึ่งทุกส่วนประกอบย่อย ๆ เล็ก ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเหล่านั้นล้วนต้องการน้ำตาลกลูโคสที่ ได้จากกระบวนการเผาผลาญอาหารมาใช้เพื่อเป็นพลังงานให้การทำงานของอวัยวะทุก ส่วนเป็นไปอย่างปกติ ซึ่งระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดนั้นจะสูงสุดในช่วงระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร ต่อจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของตับและบรรดาฮอร์โมนเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด (counteregulatory hormone) ที่จะมาช่วยกันรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ต่ำเกินไปจนเซลล์เกิดความเสีย หาย รวมทั้งต้องเพียงพอต่อการทำงานของ 2 อวัยวะที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการมีชีวิตมนุษย์ซึ่งก็คือสมองและหัวใจ

อย่างไรก็ตาม, ร่างกายของเราก็มีแผนสำรองเผื่อไว้ในกรณีที่มนุษย์เกิดเหตุกรณ์ไม่สามารถเติมเต็มความหวานให้ชีวิต เอ๊ย…น้ำตาลในเลือดต่ำ ก็คือ...อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นน้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของ เซลล์ “ส่วนใหญ่” ในร่างกาย แต่ไม่ใช่สำหรับสมอง เพราะสมองยังสามารถใช้บริการพลังงานจาก “คีโตนบอดี้” (Ketone bodies) ซึ่งเป็นผลิตภันฑ์ที่เกิดจากกระบวนการสลายไขมันและโปรตีนที่สะสมไว้ตามแหล่ง ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าท้อง ต้นแขน-ขา หรือแม้แต่ในอวัยวะภายใน

มองเผิน ๆ แล้วน่าจะดีนะครับ เพราะอาจจะช่วยลดไขมันและน้ำหนักส่วนเกินได้ แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกครับ (ถ้าดีจริงร่างกายก็เอามาใช้เป็นอันดับแรกแล้วสิ…ร่างกายมนุษย์ฉลาดจะตาย) เพราะคีโตนเป็นสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อออกมามาก ๆ ย่อมเกิดการทำลายอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ, การที่เลือดเป็นกรดจะทำให้กระบวนการทั้งหลายของเซลล์เปลี่ยนแปลงไป เซลล์อีกมากที่ต้องการน้ำตาลกลูโคสเป็นหลัก-เช่น เม็ดเลือดแดง, เซลล์ประสาท-จะไม่สามารถทำงานได้ดี นอกจากนี้ร่างกายที่ขาดอาหารเช้าจะพยายามสะสมไขมันที่ได้จากอาหารเย็นไว้ มากกว่าปกติเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในตอนเช้า

สรุปง่าย ๆ ก็คือแทนที่จะผอมจะกลายเป็นอ้วนกว่าเดิม ซึ่งถ้าหากเป็นอย่างนี้ทุกวัน สมองที่ใช้คีโตนได้ก็คงไม่รอดและเสื่อมในที่สุด ร่างกายรวนทั้งระบบจนสุขภาพทรุดโทรม เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาอย่างแน่นอน

ใครไม่เชื่อลองสังเกตตัวเองหรือคนรอบข้างดูก็ ได้นะครับ คนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นอย่างไร คนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นอย่างไร คนไหนสดใสร่าเริง ดูกระฉับกระเฉงและพร้อมสำหรับวันใหม่มากกว่ากัน

ล่าสุด มหาวิทยาลัยโตรอนโตของประเทศแคนาดาได้ทำการศึกษาวิจัยผลของการรับประทาน อาหารเช้าของคุณลุงคุณป้าอายุ 61-79 ปี โดยแบ่งเป็นกลุ่มอดอาหารเช้า กับไม่อดอาหารเช้า แล้วมาทำแบบทดสอบความจำแข่งกัน

ปรากฏว่าบรรดาผู้มากอายุที่รับประทานอาหารเช้าจะมีความจำดีกว่าคุณลุงคุณป้าที่อดอาหารเช้าอย่างขาดลอย

เห็นความสำคัญของอาหารเช้าอย่างนี้แล้ว ได้เวลาหรือยังครับที่จะเลิกมองอาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่ไร้ความสำคัญ และปรับเปลี่ยนอุปนิสัยการกินจากเดิมที่ผิด ๆ ให้กลายเป็นแบบ “กินอาหารเช้าอย่างราชา อาหารกลางวันแบบคนธรรมดา และอาหารเย็นแบบยาจก”

เริ่มจากตอนเย็นออกกำลังกายแบบแอโรบิคสัก 30 นาที รับประทานอาหารเย็นแต่พออิ่ม งดอาหารมื้อย่อย ๆ หลังจากนี้ ตกกลางคืนก็ทำงานเบา ๆ พยายามผ่อนคลายจิตใจ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความตึงเครียด เช่น ดูหนังฆาตกรมมสยองขวัญ เหล่านี้จะช่วยห้เรานอนเร็วขึ้นและหลับสนิทได้นาน ตื่นเช้ากว่าเดิมสักนิด อาบน้ำแปรงฟันให้ลมหายใจสดชื่นแล้วมานั่งรับประทานอาหารเช้า เติมพลังงานหยอดน้ำมันให้ฟันเฟือนเล็ก ๆ ในร่างกายสักนิดก่อนออกไปเผชิญวันใหม่

ที่สำคัญต้องกินอาหารอย่างมีความสุขด้วย ดังนั้นระหว่างรับประทานอาหารควรอยู่ภายใต้บรรยากาศที่สงบ ไม่ควรพูดเรื่องเครียด ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง ศาสนา ความเชื่อ หลีกเลี่ยงการดูข่าวที่ไม่ดีระหว่างกินอาหาร ไม่ควรพูดนินทาชาวบ้าน สนทนากันแต่เรื่องที่มีความสุข ขำขัน ท่องเที่ยว หรือจะฟังเพลงเพราะเคล้าคลอไปด้วยก็ไม่ว่ากัน

เวลาเคี้ยวอาหารก็ให้กินช้า ๆ เคี้ยวอย่างละเอียด กินนานมื้อละ 15 นาที จะทำให้เราได้ปริมาณอาหารน้อยลง ไม่มากจนเกินไป และเป็นการรอให้รสชาติและกลิ่นของอาหารค่อย ๆ ซึมซาบไปยังโสตสัมผัสจนเกิดเป็นความสุข ฮอร์โมนการย่อยอาหารได้ออกฤทธิ์เต็มที่
0/5000
From: -
To: -
Results (English) 1: [Copy]
Copied!
Breakfast There is a sop in English translation, the "Breakfast" breakfast with the word "Break", which means "stop" with the word "Fast", which means "fasting" come together, so the Breakfast means "to stop fasting."We are often eating dinner about 6:00 p.m. to 11 p.m. EST. 3 is the most. After that, it is often gently relax the brain activity before falling a sleep. This is a late night meal than the punishment to the body, because the body will replace and repair the fatigue that occurred throughout the day, but I need to waste time and energy. To digestion.Count, and then the body needs more than the fasting day is approximately 10-12 hours.ร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยเซลล์จำนวนมหาศาล ซึ่งทุกส่วนประกอบย่อย ๆ เล็ก ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเหล่านั้นล้วนต้องการน้ำตาลกลูโคสที่ ได้จากกระบวนการเผาผลาญอาหารมาใช้เพื่อเป็นพลังงานให้การทำงานของอวัยวะทุก ส่วนเป็นไปอย่างปกติ ซึ่งระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดนั้นจะสูงสุดในช่วงระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร ต่อจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของตับและบรรดาฮอร์โมนเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด (counteregulatory hormone) ที่จะมาช่วยกันรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ต่ำเกินไปจนเซลล์เกิดความเสีย หาย รวมทั้งต้องเพียงพอต่อการทำงานของ 2 อวัยวะที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการมีชีวิตมนุษย์ซึ่งก็คือสมองและหัวใจอย่างไรก็ตาม, ร่างกายของเราก็มีแผนสำรองเผื่อไว้ในกรณีที่มนุษย์เกิดเหตุกรณ์ไม่สามารถเติมเต็มความหวานให้ชีวิต เอ๊ย…น้ำตาลในเลือดต่ำ ก็คือ...อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นน้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของ เซลล์ “ส่วนใหญ่” ในร่างกาย แต่ไม่ใช่สำหรับสมอง เพราะสมองยังสามารถใช้บริการพลังงานจาก “คีโตนบอดี้” (Ketone bodies) ซึ่งเป็นผลิตภันฑ์ที่เกิดจากกระบวนการสลายไขมันและโปรตีนที่สะสมไว้ตามแหล่ง ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าท้อง ต้นแขน-ขา หรือแม้แต่ในอวัยวะภายในมองเผิน ๆ แล้วน่าจะดีนะครับ เพราะอาจจะช่วยลดไขมันและน้ำหนักส่วนเกินได้ แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกครับ (ถ้าดีจริงร่างกายก็เอามาใช้เป็นอันดับแรกแล้วสิ…ร่างกายมนุษย์ฉลาดจะตาย) เพราะคีโตนเป็นสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อออกมามาก ๆ ย่อมเกิดการทำลายอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ, การที่เลือดเป็นกรดจะทำให้กระบวนการทั้งหลายของเซลล์เปลี่ยนแปลงไป เซลล์อีกมากที่ต้องการน้ำตาลกลูโคสเป็นหลัก-เช่น เม็ดเลือดแดง, เซลล์ประสาท-จะไม่สามารถทำงานได้ดี นอกจากนี้ร่างกายที่ขาดอาหารเช้าจะพยายามสะสมไขมันที่ได้จากอาหารเย็นไว้ มากกว่าปกติเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในตอนเช้าสรุปง่าย ๆ ก็คือแทนที่จะผอมจะกลายเป็นอ้วนกว่าเดิม ซึ่งถ้าหากเป็นอย่างนี้ทุกวัน สมองที่ใช้คีโตนได้ก็คงไม่รอดและเสื่อมในที่สุด ร่างกายรวนทั้งระบบจนสุขภาพทรุดโทรม เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาอย่างแน่นอนใครไม่เชื่อลองสังเกตตัวเองหรือคนรอบข้างดูก็ ได้นะครับ คนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นอย่างไร คนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นอย่างไร คนไหนสดใสร่าเริง ดูกระฉับกระเฉงและพร้อมสำหรับวันใหม่มากกว่ากันล่าสุด มหาวิทยาลัยโตรอนโตของประเทศแคนาดาได้ทำการศึกษาวิจัยผลของการรับประทาน อาหารเช้าของคุณลุงคุณป้าอายุ 61-79 ปี โดยแบ่งเป็นกลุ่มอดอาหารเช้า กับไม่อดอาหารเช้า แล้วมาทำแบบทดสอบความจำแข่งกัน
ปรากฏว่าบรรดาผู้มากอายุที่รับประทานอาหารเช้าจะมีความจำดีกว่าคุณลุงคุณป้าที่อดอาหารเช้าอย่างขาดลอย

เห็นความสำคัญของอาหารเช้าอย่างนี้แล้ว ได้เวลาหรือยังครับที่จะเลิกมองอาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่ไร้ความสำคัญ และปรับเปลี่ยนอุปนิสัยการกินจากเดิมที่ผิด ๆ ให้กลายเป็นแบบ “กินอาหารเช้าอย่างราชา อาหารกลางวันแบบคนธรรมดา และอาหารเย็นแบบยาจก”

เริ่มจากตอนเย็นออกกำลังกายแบบแอโรบิคสัก 30 นาที รับประทานอาหารเย็นแต่พออิ่ม งดอาหารมื้อย่อย ๆ หลังจากนี้ ตกกลางคืนก็ทำงานเบา ๆ พยายามผ่อนคลายจิตใจ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความตึงเครียด เช่น ดูหนังฆาตกรมมสยองขวัญ เหล่านี้จะช่วยห้เรานอนเร็วขึ้นและหลับสนิทได้นาน ตื่นเช้ากว่าเดิมสักนิด อาบน้ำแปรงฟันให้ลมหายใจสดชื่นแล้วมานั่งรับประทานอาหารเช้า เติมพลังงานหยอดน้ำมันให้ฟันเฟือนเล็ก ๆ ในร่างกายสักนิดก่อนออกไปเผชิญวันใหม่

ที่สำคัญต้องกินอาหารอย่างมีความสุขด้วย ดังนั้นระหว่างรับประทานอาหารควรอยู่ภายใต้บรรยากาศที่สงบ ไม่ควรพูดเรื่องเครียด ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง ศาสนา ความเชื่อ หลีกเลี่ยงการดูข่าวที่ไม่ดีระหว่างกินอาหาร ไม่ควรพูดนินทาชาวบ้าน สนทนากันแต่เรื่องที่มีความสุข ขำขัน ท่องเที่ยว หรือจะฟังเพลงเพราะเคล้าคลอไปด้วยก็ไม่ว่ากัน

เวลาเคี้ยวอาหารก็ให้กินช้า ๆ เคี้ยวอย่างละเอียด กินนานมื้อละ 15 นาที จะทำให้เราได้ปริมาณอาหารน้อยลง ไม่มากจนเกินไป และเป็นการรอให้รสชาติและกลิ่นของอาหารค่อย ๆ ซึมซาบไปยังโสตสัมผัสจนเกิดเป็นความสุข ฮอร์โมนการย่อยอาหารได้ออกฤทธิ์เต็มที่
Being translated, please wait..
Results (English) 2:[Copy]
Copied!
Breakfast Have a funeral service in English as "Breakfast" translation directly by the word "Break" which means "stop" to the word "Fast", which means "starving" them together so Breakfast it means. "Stop dieting" We usually eat dinner around 6 pm to 3 pm forecast majority. After that, it is often lightly resting brain activity before falling asleep. This supper is harmful to the body because the body can relax and replaced. Repair of fatigue that occur throughout the day, but his time and energy. For digestion , the body count would have to starve than the morning for about 10-12 hours, the human body consists of a huge number of cells. Each subassembly little that can not be seen with the naked eye, they are like glucose. By metabolic processes used to power the operation of all organs. Part is normal The level of glucose in the blood is highest during the period of approximately 1-2 hours after a meal. Subsequently, it will be a function of the liver and those hormones increase blood sugar levels. (Counteregulatory hormone) to help maintain blood sugar levels can not be too low to cells caused damage and must be the work of two organs that are very important to the life of man, which is the brain. heart , however, our bodies have a backup plan in case the human scene, Korn can not fulfill the sweet life. Oh ... low blood sugar It is ... As mentioned above, glucose is an important energy source of cells, the "majority" in the body, but not for the brain. The brain can also use the power of "Ketone Body" (Ketone bodies) which is produced Phand caused by the breakdown of fat and protein accumulation, according to various sources, be it the abdomen, upper arm - or legs. Even in internal organs will then look somewhat good. This may help reduce fat and excess weight. But the reality is not like that. (Well, actually, if the body was taken to first, and then a ... human intelligence die) because Ketones are substances that are acidic. When it came out it caused the destruction of various organs and tissues, the blood acidic, it makes the process of cell changes. Cells that need the glucose is the primary - like. Red blood cells, nerve cells - will not work well. In addition, the lack of body fat at breakfast to try the food cold. More generally, as a source of energy in the morning simple conclusion is rather thin to become obese than ever. If it is like this every day. The brain can use ketone would not have survived and eventually dementia. The entire body of the deteriorating health. Ailments caused by absolutely anyone not believe I noticed yourself or the people around you see it's not just people who eat breakfast do. People who do not eat breakfast. Gay people Get active and ready for the day rather than the last. University of Toronto, Canada, has studied the effects of eating. Breakfast of aunts and uncles 61-79 year age group, divided into morning fasting. With a morning fasting Then do a memory test well appear that those very age that breakfast is better memory aunts and uncles that morning fasting overwhelmingly see the importance of this room. You still have time to stop for breakfast, a meal without importance. And modify the eating habits of the same offense to become a model. "Eat breakfast like royalty Lunch ordinary people Dinner and the Pauper " From evening aerobic exercise for 30 minutes but I'm eating dinner. Eat small meals after this night, it works gently to relax the mind. Avoid activities that cause tension, like a horror movie killers mm. These will help clean up our beds and sleep longer. Wake up a little more Bath, brush teeth, fresh breath and sit eating breakfast. Fuel oil to the teeth Eฟืan tiny little body out to face the day before a major to eat happily with. Therefore, the diet should be under a peaceful atmosphere. Should not be stressful, especially about politics, religion, faith, avoid eating the bad news. You should not gossip But the story has a happy conversation humorous tour or to listen to music because it does not blend that well , it's time to eat slowly, chew, chew food thoroughly, eat a meal 15 minutes will make us less amount of food. Not too much And is waiting for the taste and smell of food gradually penetrate to the refuge until they are happy. Digestive hormones have full effect.

























Being translated, please wait..
Results (English) 3:[Copy]
Copied!
Breakfast, the words are the body / in English. "Breakfast" translation directly, the word "Break." แปลว. "Stop" with the word "Fast." that means. "Fasting" together, so Breakfast therefore means "stop fasting"

.We often have dinner about 6 pm to 3 PM by mostly. After that it is usually the gently relax your brain before they lay down to sleep.Repair fatigue that occur throughout the day only to be a waste of time and energy to digest food
.
count and body to fasting until morning for about 10-12 hours

.The human body consists of a large number of cells, which all sub components, small, not visible to the naked eye, they all want to glucose.As is normal. The level of glucose in the blood that is the highest in the period around 1-2 hours after eating. Then it is the duty of the liver and the hyperglycemic hormone (counteregulatory hormone).Missing, including enough on the functions of 2 organs with great significance to live มนุษย์ซึ่ง is the brain and heart
.
however,. Our body has a backup plan in case a man born incident could not be fulfilled ความหวานให้ life fuck... Low blood sugar is...As mentioned above, glucose as an energy source of the important cell. "Most" in the body, but not for the brain, because the brain can also use the service power. "The ketone body" (Ketone bodies).Various whether at abdomen, upper arms - leg or even in the internal organs
.
.Look at a cursory and be good. It may help to reduce fat and excess weight. But in fact is not like that. (if the good body, it used first, then on the human body is clever).When out lots will be the destruction of organs and tissues.The acid blood will make all of process changes. Another more glucose are the main cells - such as erythrocyteNeuron - won't work well. In addition the body from morning to try to accumulate fat from dinner. More than usual as energy sources in the morning

.Conclusion easy is rather thin will become fat than ever. If every day. The brain uses ketones would not survive and fall finally. The body down both the system until the health deteriorated. Born disease certainly follow

.Don't try to observe yourself or others watched it. People who eat breakfast are efficiently. People who do not eat breakfast? Which one bright cheerful. Look up and ready for a new day more

.Recently, the University of Toronto of Canada Research effects of eating. Breakfast of 61-79 years old uncle They were divided into morning fasting to have breakfast and make the memory tests it

.And those very old breakfast have better memories than uncle at the morning fasting อย่างขาดลอย

.
Being translated, please wait..
 
Other languages
The translation tool support: Afrikaans, Albanian, Amharic, Arabic, Armenian, Azerbaijani, Basque, Belarusian, Bengali, Bosnian, Bulgarian, Catalan, Cebuano, Chichewa, Chinese, Chinese Traditional, Corsican, Croatian, Czech, Danish, Detect language, Dutch, English, Esperanto, Estonian, Filipino, Finnish, French, Frisian, Galician, Georgian, German, Greek, Gujarati, Haitian Creole, Hausa, Hawaiian, Hebrew, Hindi, Hmong, Hungarian, Icelandic, Igbo, Indonesian, Irish, Italian, Japanese, Javanese, Kannada, Kazakh, Khmer, Kinyarwanda, Klingon, Korean, Kurdish (Kurmanji), Kyrgyz, Lao, Latin, Latvian, Lithuanian, Luxembourgish, Macedonian, Malagasy, Malay, Malayalam, Maltese, Maori, Marathi, Mongolian, Myanmar (Burmese), Nepali, Norwegian, Odia (Oriya), Pashto, Persian, Polish, Portuguese, Punjabi, Romanian, Russian, Samoan, Scots Gaelic, Serbian, Sesotho, Shona, Sindhi, Sinhala, Slovak, Slovenian, Somali, Spanish, Sundanese, Swahili, Swedish, Tajik, Tamil, Tatar, Telugu, Thai, Turkish, Turkmen, Ukrainian, Urdu, Uyghur, Uzbek, Vietnamese, Welsh, Xhosa, Yiddish, Yoruba, Zulu, Language translation.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: