“เป็นอะไรหรือเปล่า ? ทำหน้าเหมือนเห็นผีมาอย่างนั้นแหล่ะ”เสียงอ่อนหวานข translation - “เป็นอะไรหรือเปล่า ? ทำหน้าเหมือนเห็นผีมาอย่างนั้นแหล่ะ”เสียงอ่อนหวานข English how to say

“เป็นอะไรหรือเปล่า ? ทำหน้าเหมือนเห

“เป็นอะไรหรือเปล่า ? ทำหน้าเหมือนเห็นผีมาอย่างนั้นแหล่ะ”
เสียงอ่อนหวานของผู้เป็นมารดาถามขึ้นเมื่อเห็นบุตรชายเพียงคนเดียวที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาในบ้าน ดวงหน้าหวานที่เคยแจ่มใส บัดนี้ดูซีดลงไปถนัดตา ร่างบางหอบหายใจระรัวเสียงดังเพราะวิ่งแบบไม่คิดชีวิตมาตั้งแต่ธารน้ำตกกระทั่งถึงที่บ้านนี้ แล้วพยายามข่มนัยน์ตากลมโตสีชาที่ตอนนี้เบิกขึ้นกว้างลงเพื่อสงบสติอารมณ์
“ม...ไม่มีอะไรขอรับท่านแม่ แค่ตกใจอะไรนิดหน่อย” จะบอกว่าท่านแม่ว่าตนไปเจอผีมาอย่างที่พูดก็กระไรอยู่ ...ตั้งแต่เด็กจนโตมานี่ก็ 17 ปีแล้ว ไม่เคยเจออะไรแปลกๆเลยซักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก ...
เสียงนั่นมันเสียงอะไร ?
แถมเงาตะคุ่มดำๆที่ชายป่าอีกฝั่งลำธารนั่นอีก
ผี ปิศาจ โจร หรือว่า สัตว์ป่า ?
ไม่รู้ว่าตัวอะไรกันแน่ล่ะ แต่เพื่อความปลอดภัย ยังไงก็ต้องหนีมาก่อน
มือเล็กจัดการตากยูคาตะลงบนราวเล็กๆ ก่อนจะเดินมาหามารดาที่นั่งเย็บผ้าอยู่ใกล้ๆ ...เพราะออกไปทำงานกลางแจ้งไม่ค่อยได้ แม่ของเขาจึงรับทำงานตัดเย็บหรือทอผ้าอยู่กับที่บ้านเสียมากกว่า และคุราปิก้าเอง หลังจากที่ทำงานกลับมาที่บ้านแล้ว ก็จะช่วยแม่ทำงานนี้ด้วย
“ดึกแล้ว ท่านแม่พักงานแล้วเข้านอนเถอะขอรับ ที่เหลือข้าทำต่อให้เอง” คุราปิก้าบอกมารดา
“แล้วเจ้าไม่นอนรึ ?” นางหันไปถามบุตรชายที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เหลือแค่เย็บตรงนี้สินะขอรับ ? ถ้าเย็บเสร็จ ข้าก็จะนอน” ร่างบางรับผ้ามา “ท่านแม่ เข้านอนเถอะนะ ^^”
เมื่อเห็นบุตรชายเอ่ยดังนั้น เธอจึงยอมเข้านอนแต่โดยดี เพราะรู้ว่าลูกเป็นห่วงสุขภาพของตนมากแค่ไหน ...ส่วนคุราปิก้าเอง ก็นั่งเย็บผ้าส่วนที่เหลือต่อให้ เพียงไม่นานก็เสร็จ และตามเข้านอนด้วยอีกคน พรุ่งนี้เขาต้องเริ่มต้นไปทำงานที่ไร่ส้มของชาร์ลแน็คแต่เช้าตรู่ จึงจำเป็นต้องพักผ่อนให้มากๆจะได้มีแรงทั้งวัน
............................................
“คืนนี้ดูเจ้าชายทรงไม่ค่อยมีสมาธิเหมือนทุกทีเลยนะขอรับ ?”
คารุโตะถามขึ้นหลังจากที่เพิ่งกลับมาจากการล่าสัตว์กับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์แห่งแคว้น แม้จะได้สัตว์หลายๆอย่างมาเป็นทั้งมื้อค่ำและของฝากกลับวัง แต่ถ้าไม่สังเกตุดีๆหรือไม่รู้ใจจริงๆล่ะก็ จะดูไม่ออกเลยว่าเจ้าชายคนนี้กำลังมีเรื่องอะไรอยู่ภายในใจ ...คิรัวร์ก้าวลงจากหลังม้าสีขาวบริสุทธิ์ของตนเงียบๆ ขณะที่พวกทหารพากันแบกหามสัตว์ที่ล่ามาได้ไปเตรียมประกอบเป็นอาหารบางส่วนและเก็บไว้ในที่พักเพื่อนำกลับวังหลวง
“คารุโตะ” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเรียบๆ หากแต่สายตาดูเหม่อลอย
“ขอรับ?” เด็กน้อยเรือนผมสีดำขลับตอบรับคำเรียกพลางก้มหน้าลงต่ำ
“ข้าจะค้างแรมอยู่ที่นี่อีกคืน”
“แต่คืนพรุ่งนี้ พระจันทร์จะไม่สว่างเท่าคืนนี้แล้วนะขอรับ ข้าเกรงว่ามันจะเป็นอุปสรรคต่อการล่าสัตว์ของพระองค์”
“ข้าไม่ได้จะอยู่เพื่อล่าสัตว์” คิรัวร์เอ่ยขึ้นแล้วหันไปมององครักษ์เอกที่กำลังทำหน้างุนงง “แต่ข้าจะอยู่เพื่อยลสิ่งที่มีค่ากว่านั้น”
เรียวขายาวก้าวเข้าที่พักแรมไปเมื่อสิ้นสุดประโยคสุดท้าย คารุโตะทำได้แต่เพียงน้อมรับบัญชานั้น เพราะเขาไม่อาจขัดใจเจ้าชายได้ ...หนุ่มน้อยได้แต่ครุ่นคิดว่า เจ้าชายของตนคงไปประสบอะไรมาจึงได้ทำให้ดูเหม่อลอยอยู่ตลอดการล่าสัตว์ในค่ำคืนนี้ และถ้าหากเป็นจริงดังนั้น พรุ่งนี้เขาคงรู้คำตอบของต้นตอนั้น
สิ่งมีค่า ที่เจ้าชายกล่าวถึงมันคืออะไร ? เขาเองก็อยากทราบเช่นกัน
.
เช้านี้อากาศช่างสดชื่นยิ่งกว่าทุกวันจนรู้สึกได้
ร่างบอบบางตื่นแต่เช้าตรู่ และเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารให้แก่มารดาดังเช่นทุกวัน และห่อเป็นมื้อกลางวันเพื่อไว้ทานที่ไร่ส้มซึ่งตนจะไปทำงานรับจ้างวันนี้ด้วย แม้ว่าชาร์ลแน็คจะเลี้ยงข้าวตอบแทนทุกครั้ง แต่คุราปิก้าก็เกรงใจที่จะต้องรับทั้งเงินและต้องให้ผู้ว่าจ้างเลี้ยงข้าวตนอีก จึงห่อไปกินเองเสียมากกว่า
หลังจากเตรียมตัวจนเสร็จเรียบร้อย คนตัวเล็กก็ร่ำลามารดาและออกเดินทางไปยังบ้านหลังใหญ่ที่สุดของหมู่บ้านนี้
“อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านชา์ลแน็ค” เสียงใสเอ่ยทักทายเจ้าบ้านพร้อมโค้งให้อย่างนอบน้อม
ชายหนุ่มเรือนผมสั้นสีชา นัยน์ตาสีมรกตที่ยืนอยู่ตรงชานมอบรอยยิ้มอ่อนโยนให้ร่างบางที่เขาคุ้นเคยดี “อา ...มาแต่เช้าเชียว มาทานมื้อเช้าด้วยกันก่อนไหม คุราปิก้า?”
“ข้าทานมาแล้วขอรับ จะให้ข้าเริ่มงานเลยดีไหม ?” คุราปิก้าถาม
“ได้สิ ตอนนี้คนงานก็เข้าไปได้พักนึงแล้ว” ชาร์ลแน็คบอก “เจ้าอย่าหักโหมมากไปเสียล่ะ ถ้าเหนื่อยก็พัก”
คุราปิก้ายิ้มรับในความอารีนั้น ก่อนจะโค้งให้อีกครั้ง “ขอรับ ท่านชาร์ลแน็ค”
ร่างเล็กเดินร่าเริงไปยังทางเข้าไร่ส้มอย่างคุ้นเคย โดยที่ชาร์ลแน็คมองตามจนลับ ...
ไร่ส้มกว้างขวาง บัดนี้มีคนงานกำลังเริ่มเก็บผลผลิตอยู่ประปรายในระยะสายตา คุราปิก้าแขวนห่อผ้าที่พกน้ำกับข้าวปั้นเพื่อทานเป็นมื้อกลางวันมาด้วยไว้บนกิ่งไม้ใกล้ๆศาลาที่พัก ก่อนจะหยิบตะกร้าและเริ่มลงมือเก็บผลส้มเหมือนคนงานสวนอื่นๆที่กำลังทำงานกันอยู่อย่างขยันขันแข็ง
ปีนี้ผลผลิตดีมากกว่าทุกปี ชาร์ลแน็คจะแบ่งส้มบางส่วนไว้ให้คนงานที่มารับจ้างเพื่อให้ได้นำไปทานกัน บางส่วนขาย และส่งออกไปยังเมืองข้างเคียง และบางส่วนก็แปรรูปผลิตเป็นส่วนผสมในขนมหวานที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กๆ
เสียงร้องเพลงและเสียงพูดคุยกันของผู้ที่มารับจ้างในไร่ดังมาแว่วๆเรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศในการทำงานไม่เงียบเหงา และคุราปิก้าเองก็ร่วมสนทนาด้วยเมื่อยามถูกถามไถ่ แม้อากาศจะเริ่มร้อนมากขึ้นเมื่ออรุณตั้งตรงขึ้นที่กลางนภาสีฟ้าใส แต่ก็ไม่อาจทำให้รอยยิ้มน่ารักบนดวงหน้าหวานนั้นเลือนหายไปได้
กระทั่งเย็นมากแล้วงานวันแรกก็สิ้นสุดลง ทุกคนก็มารับค่าแรงและแยกย้ายกันกลับบ้าน
“ของเจ้า ข้าให้เป็นพิเศษนะ” ชาร์ลแน็ควางถุงเงินลงในมือเล็ก พร้อมกับของหวานที่ทำจากผลส้ม
“ขอบพระคุณขอรับ แต่ว่า ...” คุราปิก้าพูดด้วยสีหน้าเกรงใจ เพราะคนอื่นๆก็ทำงานหนักพอกัน เขาได้ค่าแรงเยอะกว่าแบบนี้ มันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
“เอ๊า รีบกลับบ้านเถอะ จะค่ำแล้ว เดี๋ยวแม่ของเจ้าจะเป็นห่วงนะ ระวังตัวด้วยล่ะ” ชาร์ลแน็คไม่รอให้อีกฝ่ายปฎิเสธ
คุราปิก้าโค้งให้แล้วเดินออกไปจากรั้วบ้านหลังใหญ่เงียบๆ ...ท้องฟ้ามืดลงทุกทีๆ บ้านทุกหลังเริ่มจุดตะเกียงและเชิงเทียนบ้างแล้ว ตอนนี้ส่วนมากทุกคนอยู่ในบ้านกันหมดเพื่อทานมื้อเย็นด้วยกัน คุราปิก้ารีบกลับบ
0/5000
From: -
To: -
Results (English) 1: [Copy]
Copied!
"It is what? act like seeing ghosts come easily."The sound of a sweet mother asks to see only one son, who ran home in panic page. The Sun has never been clear, sweet face and now see a pale eye lined. Some carry breathing body: no rush rarua thought life since Satun to home-grown naitaklom. He's now picked up tea color width down to calm."... Nothing to get your mother just thought something like" your mother would say that its going to come across a ghost, why is speaking. ... Since it came here to grow children until 17 years old and have never come across anything odd at all. This is the first time ...เสียงนั่นมันเสียงอะไร ?แถมเงาตะคุ่มดำๆที่ชายป่าอีกฝั่งลำธารนั่นอีกผี ปิศาจ โจร หรือว่า สัตว์ป่า ?ไม่รู้ว่าตัวอะไรกันแน่ล่ะ แต่เพื่อความปลอดภัย ยังไงก็ต้องหนีมาก่อนมือเล็กจัดการตากยูคาตะลงบนราวเล็กๆ ก่อนจะเดินมาหามารดาที่นั่งเย็บผ้าอยู่ใกล้ๆ ...เพราะออกไปทำงานกลางแจ้งไม่ค่อยได้ แม่ของเขาจึงรับทำงานตัดเย็บหรือทอผ้าอยู่กับที่บ้านเสียมากกว่า และคุราปิก้าเอง หลังจากที่ทำงานกลับมาที่บ้านแล้ว ก็จะช่วยแม่ทำงานนี้ด้วย“ดึกแล้ว ท่านแม่พักงานแล้วเข้านอนเถอะขอรับ ที่เหลือข้าทำต่อให้เอง” คุราปิก้าบอกมารดา“แล้วเจ้าไม่นอนรึ ?” นางหันไปถามบุตรชายที่นั่งอยู่ข้างๆ“เหลือแค่เย็บตรงนี้สินะขอรับ ? ถ้าเย็บเสร็จ ข้าก็จะนอน” ร่างบางรับผ้ามา “ท่านแม่ เข้านอนเถอะนะ ^^”เมื่อเห็นบุตรชายเอ่ยดังนั้น เธอจึงยอมเข้านอนแต่โดยดี เพราะรู้ว่าลูกเป็นห่วงสุขภาพของตนมากแค่ไหน ...ส่วนคุราปิก้าเอง ก็นั่งเย็บผ้าส่วนที่เหลือต่อให้ เพียงไม่นานก็เสร็จ และตามเข้านอนด้วยอีกคน พรุ่งนี้เขาต้องเริ่มต้นไปทำงานที่ไร่ส้มของชาร์ลแน็คแต่เช้าตรู่ จึงจำเป็นต้องพักผ่อนให้มากๆจะได้มีแรงทั้งวัน............................................“คืนนี้ดูเจ้าชายทรงไม่ค่อยมีสมาธิเหมือนทุกทีเลยนะขอรับ ?”คารุโตะถามขึ้นหลังจากที่เพิ่งกลับมาจากการล่าสัตว์กับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์แห่งแคว้น แม้จะได้สัตว์หลายๆอย่างมาเป็นทั้งมื้อค่ำและของฝากกลับวัง แต่ถ้าไม่สังเกตุดีๆหรือไม่รู้ใจจริงๆล่ะก็ จะดูไม่ออกเลยว่าเจ้าชายคนนี้กำลังมีเรื่องอะไรอยู่ภายในใจ ...คิรัวร์ก้าวลงจากหลังม้าสีขาวบริสุทธิ์ของตนเงียบๆ ขณะที่พวกทหารพากันแบกหามสัตว์ที่ล่ามาได้ไปเตรียมประกอบเป็นอาหารบางส่วนและเก็บไว้ในที่พักเพื่อนำกลับวังหลวง“คารุโตะ” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเรียบๆ หากแต่สายตาดูเหม่อลอย“ขอรับ?” เด็กน้อยเรือนผมสีดำขลับตอบรับคำเรียกพลางก้มหน้าลงต่ำ“ข้าจะค้างแรมอยู่ที่นี่อีกคืน”“แต่คืนพรุ่งนี้ พระจันทร์จะไม่สว่างเท่าคืนนี้แล้วนะขอรับ ข้าเกรงว่ามันจะเป็นอุปสรรคต่อการล่าสัตว์ของพระองค์”“ข้าไม่ได้จะอยู่เพื่อล่าสัตว์” คิรัวร์เอ่ยขึ้นแล้วหันไปมององครักษ์เอกที่กำลังทำหน้างุนงง “แต่ข้าจะอยู่เพื่อยลสิ่งที่มีค่ากว่านั้น”เรียวขายาวก้าวเข้าที่พักแรมไปเมื่อสิ้นสุดประโยคสุดท้าย คารุโตะทำได้แต่เพียงน้อมรับบัญชานั้น เพราะเขาไม่อาจขัดใจเจ้าชายได้ ...หนุ่มน้อยได้แต่ครุ่นคิดว่า เจ้าชายของตนคงไปประสบอะไรมาจึงได้ทำให้ดูเหม่อลอยอยู่ตลอดการล่าสัตว์ในค่ำคืนนี้ และถ้าหากเป็นจริงดังนั้น พรุ่งนี้เขาคงรู้คำตอบของต้นตอนั้นสิ่งมีค่า ที่เจ้าชายกล่าวถึงมันคืออะไร ? เขาเองก็อยากทราบเช่นกัน.เช้านี้อากาศช่างสดชื่นยิ่งกว่าทุกวันจนรู้สึกได้ร่างบอบบางตื่นแต่เช้าตรู่ และเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารให้แก่มารดาดังเช่นทุกวัน และห่อเป็นมื้อกลางวันเพื่อไว้ทานที่ไร่ส้มซึ่งตนจะไปทำงานรับจ้างวันนี้ด้วย แม้ว่าชาร์ลแน็คจะเลี้ยงข้าวตอบแทนทุกครั้ง แต่คุราปิก้าก็เกรงใจที่จะต้องรับทั้งเงินและต้องให้ผู้ว่าจ้างเลี้ยงข้าวตนอีก จึงห่อไปกินเองเสียมากกว่าหลังจากเตรียมตัวจนเสร็จเรียบร้อย คนตัวเล็กก็ร่ำลามารดาและออกเดินทางไปยังบ้านหลังใหญ่ที่สุดของหมู่บ้านนี้
“อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านชา์ลแน็ค” เสียงใสเอ่ยทักทายเจ้าบ้านพร้อมโค้งให้อย่างนอบน้อม
ชายหนุ่มเรือนผมสั้นสีชา นัยน์ตาสีมรกตที่ยืนอยู่ตรงชานมอบรอยยิ้มอ่อนโยนให้ร่างบางที่เขาคุ้นเคยดี “อา ...มาแต่เช้าเชียว มาทานมื้อเช้าด้วยกันก่อนไหม คุราปิก้า?”
“ข้าทานมาแล้วขอรับ จะให้ข้าเริ่มงานเลยดีไหม ?” คุราปิก้าถาม
“ได้สิ ตอนนี้คนงานก็เข้าไปได้พักนึงแล้ว” ชาร์ลแน็คบอก “เจ้าอย่าหักโหมมากไปเสียล่ะ ถ้าเหนื่อยก็พัก”
คุราปิก้ายิ้มรับในความอารีนั้น ก่อนจะโค้งให้อีกครั้ง “ขอรับ ท่านชาร์ลแน็ค”
ร่างเล็กเดินร่าเริงไปยังทางเข้าไร่ส้มอย่างคุ้นเคย โดยที่ชาร์ลแน็คมองตามจนลับ ...
ไร่ส้มกว้างขวาง บัดนี้มีคนงานกำลังเริ่มเก็บผลผลิตอยู่ประปรายในระยะสายตา คุราปิก้าแขวนห่อผ้าที่พกน้ำกับข้าวปั้นเพื่อทานเป็นมื้อกลางวันมาด้วยไว้บนกิ่งไม้ใกล้ๆศาลาที่พัก ก่อนจะหยิบตะกร้าและเริ่มลงมือเก็บผลส้มเหมือนคนงานสวนอื่นๆที่กำลังทำงานกันอยู่อย่างขยันขันแข็ง
ปีนี้ผลผลิตดีมากกว่าทุกปี ชาร์ลแน็คจะแบ่งส้มบางส่วนไว้ให้คนงานที่มารับจ้างเพื่อให้ได้นำไปทานกัน บางส่วนขาย และส่งออกไปยังเมืองข้างเคียง และบางส่วนก็แปรรูปผลิตเป็นส่วนผสมในขนมหวานที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กๆ
เสียงร้องเพลงและเสียงพูดคุยกันของผู้ที่มารับจ้างในไร่ดังมาแว่วๆเรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศในการทำงานไม่เงียบเหงา และคุราปิก้าเองก็ร่วมสนทนาด้วยเมื่อยามถูกถามไถ่ แม้อากาศจะเริ่มร้อนมากขึ้นเมื่ออรุณตั้งตรงขึ้นที่กลางนภาสีฟ้าใส แต่ก็ไม่อาจทำให้รอยยิ้มน่ารักบนดวงหน้าหวานนั้นเลือนหายไปได้
กระทั่งเย็นมากแล้วงานวันแรกก็สิ้นสุดลง ทุกคนก็มารับค่าแรงและแยกย้ายกันกลับบ้าน
“ของเจ้า ข้าให้เป็นพิเศษนะ” ชาร์ลแน็ควางถุงเงินลงในมือเล็ก พร้อมกับของหวานที่ทำจากผลส้ม
“ขอบพระคุณขอรับ แต่ว่า ...” คุราปิก้าพูดด้วยสีหน้าเกรงใจ เพราะคนอื่นๆก็ทำงานหนักพอกัน เขาได้ค่าแรงเยอะกว่าแบบนี้ มันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
“เอ๊า รีบกลับบ้านเถอะ จะค่ำแล้ว เดี๋ยวแม่ของเจ้าจะเป็นห่วงนะ ระวังตัวด้วยล่ะ” ชาร์ลแน็คไม่รอให้อีกฝ่ายปฎิเสธ
คุราปิก้าโค้งให้แล้วเดินออกไปจากรั้วบ้านหลังใหญ่เงียบๆ ...ท้องฟ้ามืดลงทุกทีๆ บ้านทุกหลังเริ่มจุดตะเกียงและเชิงเทียนบ้างแล้ว ตอนนี้ส่วนมากทุกคนอยู่ในบ้านกันหมดเพื่อทานมื้อเย็นด้วยกัน คุราปิก้ารีบกลับบ
Being translated, please wait..
Results (English) 3:[Copy]
Copied!
"What's the matter? Looks like you just saw a ghost that's it"
.The sweet sound of the mother asked when I see only son running up into the house. The sun was bright and sweet now look pale down obviously.Then try to suppress eyes brown now picking up wide down to calm down!
Being translated, please wait..
 
Other languages
The translation tool support: Afrikaans, Albanian, Amharic, Arabic, Armenian, Azerbaijani, Basque, Belarusian, Bengali, Bosnian, Bulgarian, Catalan, Cebuano, Chichewa, Chinese, Chinese Traditional, Corsican, Croatian, Czech, Danish, Detect language, Dutch, English, Esperanto, Estonian, Filipino, Finnish, French, Frisian, Galician, Georgian, German, Greek, Gujarati, Haitian Creole, Hausa, Hawaiian, Hebrew, Hindi, Hmong, Hungarian, Icelandic, Igbo, Indonesian, Irish, Italian, Japanese, Javanese, Kannada, Kazakh, Khmer, Kinyarwanda, Klingon, Korean, Kurdish (Kurmanji), Kyrgyz, Lao, Latin, Latvian, Lithuanian, Luxembourgish, Macedonian, Malagasy, Malay, Malayalam, Maltese, Maori, Marathi, Mongolian, Myanmar (Burmese), Nepali, Norwegian, Odia (Oriya), Pashto, Persian, Polish, Portuguese, Punjabi, Romanian, Russian, Samoan, Scots Gaelic, Serbian, Sesotho, Shona, Sindhi, Sinhala, Slovak, Slovenian, Somali, Spanish, Sundanese, Swahili, Swedish, Tajik, Tamil, Tatar, Telugu, Thai, Turkish, Turkmen, Ukrainian, Urdu, Uyghur, Uzbek, Vietnamese, Welsh, Xhosa, Yiddish, Yoruba, Zulu, Language translation.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: