Results (
English) 1:
[Copy]Copied!
After passing through private duel match with prisoners and even an excellent tharao will win, but Gore has been limited to นก็ in bad times to duel.Although the rooms are not very wide, but it is not beyond the capability of the youngest boy in the group, two people who are fun to play and explore the many perceive this.A young man drafted higher than anyone else in the group, said that its own life is the tens (please no!!) Leo Leo located either on the sofa after a quarrel with fatigue, Tom big aunt stays. As a young child, blond, light-colored tea, grown to naitaklom the seat cushion on the wall not far from running with it. Kurashiki Picasso looks around to find what's claws to kill some time, because he has not even taken over aches matches that it was physical force used against artist to shape some of the slimming. Kurashiki Piqué omyim little after the turn with a set of books beside their interesting ride. ... Young man people start reading khun tribe quietly.They have to live in this non nang to 59 hours before doors opened, they take the test.Male body fat chubby Auntie Tom's behalf as the first before the mid-afternoon, followed by Leo Leo lying on the sofa! The couple sent the offensive as to compete with hilarious laughter of boys, I point out the Brown eyes sparkling, bright boy who is always on the line fufong the bright silver color with pale white skin color, which is playing in another room, pillow, Spa.Even if you are just not known for a long time, but Gore nakap Ki rua became completely together, probably because they both the same age life and death from the hands of past killer that most families that have just been friends for the first time.เวลาผ่านไปได้ไม่นานนัก คงเพราะเล่นจนเหนื่อยอีกทั้งตลอดมาจนถึงด่านการสอบที่ทริกทาวน์เวอร์ ผลจากการผ่านการสอบที่ใช้กำลังกายไปมาก กอร์นก็ชิงหลับสนิทไปก่อนคิรัวน์อย่างง่ายดาย คุราปิก้าเองก็หยุดพักสายตาจากการอ่านหนังสือมาได้หลายเล่ม เด็กหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีทองอ่อนเห็นว่าทุกคนนอนกันหมดแล้วจึงปิดไฟ แล้วล้มตัวลงนอนด้วยอีกคน ใบหน้าขาวผ่องซุกๆเข้ากับผ้าห่มพลางหลับตาลงทั้งห้องตกอยู่ในความมืดและความเงียบ(แม้จะมีเสียงกรนของเลโอลีโอกับทอมป้าดังมาเป็นพักๆก็ตาม)เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทุกคนก็หลับสนิทกันหมดแล้ว หากแต่ยังคงเหลือเพียงคนเดียวที่ยังคงเหม่อมองไปยังตัวเลขบนผนังที่กำลังนับถอยหลังเรื่อยๆอยู่นั้น อีกนานหลายชั่วโมงมากกว่าจะถึงเวลาเปิดประตูห้องนัยน์ตาเรียวคมสีไพลินเบือนกลับขึ้นไปมองยังเพดานมืดๆนั้นอย่างเงียบงันคิรัวร์ โซลดิ๊กซ์ หนุ่มน้อยอายุ 12 ปี ทายาทจากตระกูลมือสังหารชื่อดัง ยังคงไม่ได้หลับนอนเช่นคนอื่นๆ เพราะการฝึกฝนอย่างหนักตั้งแต่เด็กทำให้ร่างกายมีความชินชากับสภาพต่างๆได้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับเขาก็ตาม เรื่องอดนอนก็เช่นเดียวกัน ถึงจะไม่ได้นอนเป็นอาทิตย์ คิรัวร์ก็ใช้ชีวิตประจำวันอยู่ตามปกติอย่างไม่ติดขัดอะไร"อ....ฮึก...."เสียงบางอย่างที่ดังขึ้นมาเบาๆแม้จะสู้เสียงกรนของทอมป้าและเลโอลีโอทั้งยังเสียงละเมองึมงำของกอร์นที่นอนอยู่ข้างๆไม่ได้ แต่อดีตมือสังหารอย่างคิรัวร์ก็สามารถได้ยินได้อย่างไม่ยากเย็นนัก นัยน์ตาสีน้ำเงินสดเหลือบลงไปยังต้นเสียงซึ่งอยู่ไม่ไกลไปจากตรงที่เขานอนอยู่นั้น"คุณแม่...คุณพ่อ...." เสียงหวานติดสะอื้นดังแผ่วๆมาจากเด็กหนุ่มที่นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มข้างกองหนังสือ แม้ห้องทั้งห้องจะมืดไร้ซึ่งแสงไฟ แต่คิรัวร์ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะสายตาของเขาชินกับความมืดแล้ว นัยน์ตาของหนุ่มน้อยหรี่ลงนิดๆเพื่อเพ่งมองสาเหตุจากต้นเสียงก่อนจะชะงักนิดๆเมื่อเขาเห็นประกายบางอย่างน้ำตาใสๆที่กำลังไหลลงมาจากนัยน์ตาสีชาที่ปิดสนิทอยู่นั้น
หนุ่มน้อยเส้นผมสีเงินสว่างลุกขึ้นจากที่นอน ก่อนจะขยับเข้าไปหาเจ้าของเสียงสะอื้นนั้นโดยไร้ซึ่งเสียงการขยับตัวจากเขา คงเพราะเขาต้องสังหารคนมาตั้งแต่เล็กๆการย่องเบาจึงกลายเป็นนิสัยติดตัวไปซะแล้ว
คิรัวน์นั่งลงตรงหน้าคุราปิก้า พลางมองหยาดน้ำตาหยาดแล้วหยาดเล่าที่ร่วงหล่นลงมาอาบผิวแก้มใสไม่ขาดสาย
กำลังฝันร้าย...?
"....ทุก...คน...ฮึก.....ฮึก"
คุราปิก้ายังคงไม่ตื่นจากฝันร้ายที่คงไม่อาจลบไปจากความทรงจำของเขาได้ชั่วชีวิต
ภาพที่เขากลับไปที่หมู่บ้าน
ภาพที่เห็นศพของพี่น้องร่วมเผ่า
หยาดเลือดที่หลั่งริน เสียงกาที่แว่วร้อง
ภาพสุดท้ายคือศพพ่อและแม่ของเขา
ทุกคนถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดและถูกควักลูกตาออกไปจนหมด
คุราปิก้ายังเด็กเกินกว่าจะรับได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เด็กชายตัวน้อยกรีดร้องอย่างเจ็บปวดเพียงลำพังท่ามกลางซากศพและหมู่บ้านเล็กๆที่ล่มสลาย
เขาเป็นคนๆเดียวของเผ่าคูลท์ที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่เพื่อชิง 'เนตรสีเพลิง' ซึ่งเป็นดังสิ่งพิเศษที่มีเพียงชนเผ่าคูลท์เท่านั้นที่จะมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด
เนตรสีเพลิง คือ นัยน์ตาของชาวเผ่าคูลท์ที่ถ้าหากว่าอารมณ์พลุ่งพล่านจนถึงขีดสุดแล้ว ดวงตาของพวกเขาจะกลายเป็นสีแดงราวกับสีของเปลวเพลิง แม้ว่าร่างจะตายไปแล้ว ทว่านัยน์ตาที่เป็นสีแดงสดนั้นก็ยังคงเปล่งประกายอยู่แบบนั้นตลอดกาล เนตรสีเพลิงจึงถูกนับว่าเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งที่สวยงามที่สุดในโลก เพราะเหตุนั้นเอง ดวงตาของชาวเผ่าคูลท์จึงเป็นที่ต้องการของเศรษฐีนักสะสมอวัยวะมนุษย์และของแปลกมากมาย
และเผ่าของคุราปิก้าก็ถูกสังหารเพียงเพราะความละโมบของมนุษย์ด้วยกันเองเพียงเพื่อต้องการครอบครองดวงตาของพวกเขาเท่านั้นเอง
เสียงร่ำไห้ของเด็กชายตัวน้อยที่บัดนี้แหบแห้งยังคงมีมาแว่วๆพร้อมๆกับเสียงขุดหลุมฝังศพให้พี่น้องร่วมเผ่า
ช่างทรมาณมากมายเกินกำลังเหลือเกิน...
คุราปิก้าขุดหลุมแล้วหลุมเล่า จนสามารถฝังทุกคนได้หมดแม้ว่ามือเล็กๆของตนจะบอบช้ำไปหมดแล้วก็ตาม เด็กชายตัวน้อยวางดอกไม้ดอกเล็กบนทุกหลุม ...น้ำตายังคงคลออยู่ในดวงตากลมโตที่บัดนี้มันเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงดังเช่นสมญานามที่ได้รับ
เสียงใสสั่นเครือกลั่นกรองขับขานบทเพลงกล่อมดวงวิญาณแด่ชาวเผ่าคูลท์ ณ ที่นั้น ...แว่วพลิ้วละล่องไปกับสายลมยามอาทิตย์อัสดง
นั่นเป็นวันที่คุราปิก้าตั้งสัตย์สาบานไว้ว่าเขาจะตามจองเวรกับพวกที่ฆ่าล้างเผ่าของตน
พวกกองโจรเงามายา!
"คุราปิก้า..." เสียงที่ฟังดูสดใสในยามปกติบัดนี้กลับทุ้มนุ่มกระซิบแผ่วเบา มือที่เคยปลิ
Being translated, please wait..